หลังจากมีการแชร์ผลวิจัยของ Dr.Om Ghandhi ถึงผลกระทบจากคลื่นโทรศัพท์ ซึ่งมีผลต่อสมองของเด็กไปทั่วเฟซบุ๊ก และเว็บเพจต่างๆ ในขณะนี้นั้น ทาง Mthai ได้ตรวจเช็คเพิ่มเติม ว่าผลงานวิจัยของ Dr.Om Ghandhi ปี 1996 มีอยู่จริงหรือไม่ ก็พบว่า มีตัวตนและผลงานดังกล่าวอยู่จริง โดยได้กล่าวว่า คลื่นโทรศัพท์มือถือ ทะลุทะลวงสู่ชั้นสมองของเด็กมากกว่าผู้ใหญ่
เนื่องจากกระโหลกศีรษะบางกว่า (ที่คนเฒ่าคนแก่ เรียกว่า กระหม่อมบาง) การทะลุทะลวงดังกล่าวสู่ชั้นสมอง ทำให้เกิดอาการ ปวดร้าวศีรษะได้ และเป็นไปได้ว่าทำให้เกิดการดัดแปลงระดับชั้นพันธุกรรม DNA และชั้น เซลส์ ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของมะเร็งได้
ทั้งนี้ Natural Health Strategies.com ได้แนะนำข้อควรระวังคือ
1. ห้ามเด็กใช้ โทรศัพท์มือถือ หรือใช้ให้น้อยที่สุด
2. โทรศัพท์บ้านไร้สาย ปล่อยคลื่น EMR (Electromagnetic Radiation) มากกว่าโทรศัพท์มือถือเสียอีก แม้ว่าจะวางอยู่เฉยๆ
3. ใช้โทรศัพท์บ้านปกติ ปลอดภัยที่สุด
4. คนมีครรภ์ ควรใช้ โทรศัพท์มือถือให้น้อยที่สุด
5. หูฟังที่มากับโทรศัพท์มือถือ ทางวิทยาศาสตร์ทำหน้าที่เป็นเสาอากาศ (สังเกตว่า เมื่อใช้สายหูฟังถึงจะฟังวิทยุได้) จึงเป็นตัวนำสัญญาณ EMR เข้าสู่สมองได้ ให้หลีกเลี่ยง
6. อย่าเหน็บ โทรศัพท์มือถือไว้ที่เอว เพราะเอวมีอวัยวะสำคัญๆที่ผลิตเม็ดเลือดแดงมากกว่า 80% ของทั้งร่างกาย
7. อย่าวาง โทรศัพท์มือถือไว้ใกล้ศีรษะตลอดเวลา (บางคนชอบวางไว้ใกล้ๆ ระหว่างที่นอนหลับ)
8. หูฟังแบบพิเศษ Ferrite จะช่วยป้องกันคลื่นได้
2. โทรศัพท์บ้านไร้สาย ปล่อยคลื่น EMR (Electromagnetic Radiation) มากกว่าโทรศัพท์มือถือเสียอีก แม้ว่าจะวางอยู่เฉยๆ
3. ใช้โทรศัพท์บ้านปกติ ปลอดภัยที่สุด
4. คนมีครรภ์ ควรใช้ โทรศัพท์มือถือให้น้อยที่สุด
5. หูฟังที่มากับโทรศัพท์มือถือ ทางวิทยาศาสตร์ทำหน้าที่เป็นเสาอากาศ (สังเกตว่า เมื่อใช้สายหูฟังถึงจะฟังวิทยุได้) จึงเป็นตัวนำสัญญาณ EMR เข้าสู่สมองได้ ให้หลีกเลี่ยง
6. อย่าเหน็บ โทรศัพท์มือถือไว้ที่เอว เพราะเอวมีอวัยวะสำคัญๆที่ผลิตเม็ดเลือดแดงมากกว่า 80% ของทั้งร่างกาย
7. อย่าวาง โทรศัพท์มือถือไว้ใกล้ศีรษะตลอดเวลา (บางคนชอบวางไว้ใกล้ๆ ระหว่างที่นอนหลับ)
8. หูฟังแบบพิเศษ Ferrite จะช่วยป้องกันคลื่นได้
โดยที่ได้มีกรณีศึกษาของเด็กที่ป่วย และสันนิษฐานว่าเกิดจากสาเหตุนี้
ส่วนชาวเน็ต ก็ช่วยแชร์ และป่าวประกาศว่า ไม่ควรให้เด็กพกมือถือเลย ไม่ควรติดสัญญาณ Wi-fi ในโรงเรียนด้วยซ้ำ และนโยบายแทบเบล็ตเด็ก ป.1 อาจจะเป็นตัวทำลายสมองของเด็กเสียก่อนที่จะให้เด็กได้เรียนรู้ แต่ทั้งนี้ในวิจัยดังกล่าวไม่ได้พูดถึงเรื่อง Wi-fi รวมอยู่ในสาเหตุด้วยแต่อย่างใด
ข้อมูลจาก FB@คุณ Leo Paul และ
www.radiation-robs-your-life.com/cell-phones-for-kids.html
ที่มา: http://news.mthai.com/general-news/217831.html
www.radiation-robs-your-life.com/cell-phones-for-kids.html
ที่มา: http://news.mthai.com/general-news/217831.html
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น